Thai
วันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 20 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
แหล่งท่องเที่ยว
สุสานหอยสี่สิบล้านปี จังหวัดกระบี่
สุสานหอยสี่สิบล้านปีตั้งอยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กม. ใช้เส้นทางเดียวกับทาง ไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 ซม. ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหล่อเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึง ปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี ซึ่งมีเพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (มลรัฐชิคาโก) ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย
ที่พัก
อ่าวนาง 164 หมู่ 2 อ่าวนาง ราคา 1,400-4,300 บาท + อาหารเช้า
ไร่เลย์1 หมู่ 2 ต.อ่าวนาง หาดไร่เลย์ตะวันออก
แอร์,พัดลม, ห้องน้ำในตัว ราคา 600-1,500 บา การเดินทาง
1. ทางรถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศบริการวันละหลายเที่ยว รายละเอียดสอบถามได้ที่สถานีเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ หมอชิต 2
2. สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟ หรือเครื่องบิน จะต้องลงที่จังหวัดขอนแก่น แล้วต่อรถยนต์มาจังหวัดมหาสารคามอีกประมาณ 72 กิโลเมตร ต่อจากกรุงเทพมากระบี่รถโดยสารประจำทาง เปิดบริการเดินรถกรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน
3. ทางอากาศ จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ลงที่สนามบินจังหวัดภูเก็ต แล้วต่อรถยนต์โดยสารเข้า
จังหวัดกระบี่
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
รถโดยสารประจำทาง จากสารคามถึงกระบี่ ประมาณ 1500 บาท
สุสานหอยสี่สิบล้านปีตั้งอยู่บริเวณชายทะเลบ้านแหลมโพธิ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กม. ใช้เส้นทางเดียวกับทาง ไปหาดนพรัตน์ธารา เมื่อถึงบ้านไสไทย จะมีป้ายบอกทางไปสุสานหอย บริเวณที่เป็นสุสานหอยแห่งนี้ เดิมเป็นหนองน้ำจืดขนาดใหญ่ มีหอยอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะหอยขม มีขนาดราว 2 ซม. ต่อมาเกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณพื้นผิวโลก น้ำทะเลไหลเข้ามาท่วมบริเวณหนองน้ำจนหมด ทำให้ธาตุหินปูนในน้ำทะเลหล่อเปลือกหอยใต้น้ำจนเป็นเนื้อเดียวกัน กลายเป็นแผ่นหินแข็งที่เรียกว่า Shelly Limestone หนาประมาณ 40 เซนติเมตร เมื่อแผ่นดินบริเวณนี้ถูกยกตัวขึ้นสูง ซากฟอสซิลเหล่านี้จึง ปรากฏให้เห็นเป็นลานหินกว้างใหญ่ยื่นลงไปในทะเล จากการคำนวณหาอายุทางธรณีวิทยาพบว่า ฟอสซิลนี้มีอายุราว 40 ล้านปี ซึ่งมีเพียง 3 แห่งในโลกเท่านั้น คือที่ประเทศสหรัฐอเมริกา (มลรัฐชิคาโก) ประเทศญี่ปุ่น และประเทศไทย
ที่พัก
อ่าวนาง 164 หมู่ 2 อ่าวนาง ราคา 1,400-4,300 บาท + อาหารเช้า
ไร่เลย์1 หมู่ 2 ต.อ่าวนาง หาดไร่เลย์ตะวันออก
แอร์,พัดลม, ห้องน้ำในตัว ราคา 600-1,500 บา การเดินทาง
1. ทางรถโดยสารประจำทาง บริษัท ขนส่ง จำกัด มีรถโดยสารประจำทางทั้งรถธรรมดาและรถปรับอากาศบริการวันละหลายเที่ยว รายละเอียดสอบถามได้ที่สถานีเดินรถสายตะวันออกเฉียงเหนือ หมอชิต 2
2. สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถไฟ หรือเครื่องบิน จะต้องลงที่จังหวัดขอนแก่น แล้วต่อรถยนต์มาจังหวัดมหาสารคามอีกประมาณ 72 กิโลเมตร ต่อจากกรุงเทพมากระบี่รถโดยสารประจำทาง เปิดบริการเดินรถกรุงเทพฯ-กระบี่ ทุกวัน
3. ทางอากาศ จากท่าอากาศยานกรุงเทพฯ ลงที่สนามบินจังหวัดภูเก็ต แล้วต่อรถยนต์โดยสารเข้า
จังหวัดกระบี่
ค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
รถโดยสารประจำทาง จากสารคามถึงกระบี่ ประมาณ 1500 บาท
วันอังคารที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2552
H1N1
การป้องกันไข้หวัด2009 H1N1
ตามที่ในขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นจำนวนมาก คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์
จึงมีมาตราการเพื่อป้องกันการติดเชื้อโดยจะทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณห้องเรียนและส่วนต่างๆของอาคารในช่วงเช้าและบ่ายก่อนการเรียนการสอนดังนั้นจึงขออภัยในความไม่สะดวก
และขอให้ทุกท่านป้องกันและปฎิบัติตัวดังต่อไปนี้
1. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ดื่มน้ำสะอาด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา
2. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำ และสบู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังไอ หรือจาม
3. ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
4. สำหรับบุคลากรความทำความสะอาดโทรศัพท์เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ด้วยแอลกอฮอลล้างแผล ซึ่งทางคณะจะจัดเตรียมให้ทุกหน่วยงาน
5. หากไม่มีความจำเป็น ควรชะลอการเดินทางไปยังประเทศที่เป็นพื้นที่เกิดการระบาด
จนกว่าสถานการณ์จะยุติลง
6. ถ้าป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เสมหะ ควรปิดปากจมูกเวลาไอ โดยใช้
ผ้าเช็ดหน้า หรือกระดาษทิชชู และทิ้งลงถังขยะที่มีฝาปิด และสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่กับผู้อื่น
และควรพบแพทย์
7. สวมหน้ากากอนามัยในที่ที่มีผู้คนแออัด และบริเวณที่มีผู้คนเยอะๆ
ตามที่ในขณะนี้ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ 2009 เป็นจำนวนมาก คณะวิทยาศาสตร์ประยุกต์
จึงมีมาตราการเพื่อป้องกันการติดเชื้อโดยจะทำการพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในบริเวณห้องเรียนและส่วนต่างๆของอาคารในช่วงเช้าและบ่ายก่อนการเรียนการสอนดังนั้นจึงขออภัยในความไม่สะดวก
และขอให้ทุกท่านป้องกันและปฎิบัติตัวดังต่อไปนี้
1. รักษาสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรค ด้วยการรับประทานอาหารที่มีประโยชน์โดยเฉพาะผัก ผลไม้ ดื่มน้ำสะอาด นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ ดื่มสุรา
2. หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำ และสบู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายหลังไอ หรือจาม
3. ใช้ช้อนกลางในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้อื่น
4. สำหรับบุคลากรความทำความสะอาดโทรศัพท์เป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง ด้วยแอลกอฮอลล้างแผล ซึ่งทางคณะจะจัดเตรียมให้ทุกหน่วยงาน
5. หากไม่มีความจำเป็น ควรชะลอการเดินทางไปยังประเทศที่เป็นพื้นที่เกิดการระบาด
จนกว่าสถานการณ์จะยุติลง
6. ถ้าป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ เช่น มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เสมหะ ควรปิดปากจมูกเวลาไอ โดยใช้
ผ้าเช็ดหน้า หรือกระดาษทิชชู และทิ้งลงถังขยะที่มีฝาปิด และสวมหน้ากากอนามัย เมื่ออยู่กับผู้อื่น
และควรพบแพทย์
7. สวมหน้ากากอนามัยในที่ที่มีผู้คนแออัด และบริเวณที่มีผู้คนเยอะๆ
food
น้ำพริกอ่อง
เครื่องปรุง
1. พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำ5 เม็ด
2. เนื้อหมูติดมันบด3 ช้อนโต๊ะ
3. มะเขือส้ม1 ถ้วย
4.ผักชีเด็ดเป็นใบ1 ต้น
5. หอมแดงซอย3 ช้อนโต๊ะ
6. กระเทียมซอย5 กลีบ
7. กระเทียมสับ3 กลีบ
8. ตะไคร้ซอย1 ช้อนโต๊ะ
9. เกลือป่น1 ช้อนชา
10. ถั่วเน่าชนิดแผ่นปิ้งไฟให้หอม1 แผ่น
11. น้ำมันพืช2 ช้อนโต๊ะ
12. ผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว กระถิน ถั่วพู
13. ผักต้ม เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือ ผักบุ้ง หัวปลี ยอดแค ฟักทอง
วิธีทำ
1. โขลกพริกแห้ง ตะไคร้ เกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่หอมแดง กระเทียมซอยและถั่วเน่า โขลกต่อให้เข้ากัน ใส่หมูบดโขลกให้เข้ากัน ใส่มะเขือส้มโขลกเบา ๆ ให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง ใส่กระเทียมสับ เจียวให้หอม ใส่พริกที่โขลกลงผัดให้หอม ลดไฟให้อ่อน ผัดพอแห้งน้ำขลุกขลิก
3. ตักใส่ถ้วย โรยใบผักชี รับประทานกับผักสดและผักต้ม
ที่มา http://student.swu.ac.th/sc481010115/spicyoong.htm
ขนมจีนน้ำเงี้ยว
เครื่องปรุง
1.ซี่โครงหมู ตัดเป็นชิ้น1x1 นิ้ว (ต้มให้นุ่ม) ½ กิโลกรัม
2.เลือดหมู หั่นสี่เหลี่ยม ½ x½ นิ้ว½ กิโลกรัม
3.มะเขือเทศลูกเล็ก ผ่าครึ่ง ½ กิโลกรัม
4.เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำซุป (น้ำต้มกระดูกหมู กรองเอาเฉพาะน้ำ) 6 ถ้วย
เครื่องแกง
1.พริกแห้ง7 เม็ด
2.รากผักชีหั่นฝอย1 ช้อนชา
3.ข่าหั่นละเอียด1 ช้อนชา
4.กะปิ2ช้อนแกง
5.หอมแดง7หัว
6.กระเทียม3หัว
วิธีทำ
1. โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด นำลงผัดในน้ำมันพืช พอหอม ใส่หมูสับ
2. เทลงในหม้อน้ำต้มกระดูกหมู ใส่ซี่โครงหมู แล้วใส่เลือดหมู และมะเขือเทศ
3. ปรุงรสด้วยเกลือ พอเดือดอีกครั้ง ยกลง เสร็จขั้นตอนทำน้ำเงี้ยว
4. จัดขนมจีนใส่จานพร้อมเครื่องเคียง ราดด้วยน้ำเงี้ยวที่ทำไว้
* รับประทานกับแคบหมู ผักกาดดอง ถั่วงอก ต้นหอม ผักชี พริกทอด กระเทียมเจียว
ที่มา http://student.swu.ac.th/sc481010115/nomjean.htm
เครื่องปรุง
1. พริกแห้งเม็ดใหญ่แกะเมล็ดออกแช่น้ำ5 เม็ด
2. เนื้อหมูติดมันบด3 ช้อนโต๊ะ
3. มะเขือส้ม1 ถ้วย
4.ผักชีเด็ดเป็นใบ1 ต้น
5. หอมแดงซอย3 ช้อนโต๊ะ
6. กระเทียมซอย5 กลีบ
7. กระเทียมสับ3 กลีบ
8. ตะไคร้ซอย1 ช้อนโต๊ะ
9. เกลือป่น1 ช้อนชา
10. ถั่วเน่าชนิดแผ่นปิ้งไฟให้หอม1 แผ่น
11. น้ำมันพืช2 ช้อนโต๊ะ
12. ผักสด เช่น แตงกวา ถั่วฝักยาว กระถิน ถั่วพู
13. ผักต้ม เช่น ถั่วฝักยาว มะเขือ ผักบุ้ง หัวปลี ยอดแค ฟักทอง
วิธีทำ
1. โขลกพริกแห้ง ตะไคร้ เกลือเข้าด้วยกันให้ละเอียด ใส่หอมแดง กระเทียมซอยและถั่วเน่า โขลกต่อให้เข้ากัน ใส่หมูบดโขลกให้เข้ากัน ใส่มะเขือส้มโขลกเบา ๆ ให้เข้ากัน
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง ใส่กระเทียมสับ เจียวให้หอม ใส่พริกที่โขลกลงผัดให้หอม ลดไฟให้อ่อน ผัดพอแห้งน้ำขลุกขลิก
3. ตักใส่ถ้วย โรยใบผักชี รับประทานกับผักสดและผักต้ม
ที่มา http://student.swu.ac.th/sc481010115/spicyoong.htm
ขนมจีนน้ำเงี้ยว
เครื่องปรุง
1.ซี่โครงหมู ตัดเป็นชิ้น1x1 นิ้ว (ต้มให้นุ่ม) ½ กิโลกรัม
2.เลือดหมู หั่นสี่เหลี่ยม ½ x½ นิ้ว½ กิโลกรัม
3.มะเขือเทศลูกเล็ก ผ่าครึ่ง ½ กิโลกรัม
4.เกลือ 2 ช้อนโต๊ะ
5.น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
6.น้ำซุป (น้ำต้มกระดูกหมู กรองเอาเฉพาะน้ำ) 6 ถ้วย
เครื่องแกง
1.พริกแห้ง7 เม็ด
2.รากผักชีหั่นฝอย1 ช้อนชา
3.ข่าหั่นละเอียด1 ช้อนชา
4.กะปิ2ช้อนแกง
5.หอมแดง7หัว
6.กระเทียม3หัว
วิธีทำ
1. โขลกเครื่องแกงให้ละเอียด นำลงผัดในน้ำมันพืช พอหอม ใส่หมูสับ
2. เทลงในหม้อน้ำต้มกระดูกหมู ใส่ซี่โครงหมู แล้วใส่เลือดหมู และมะเขือเทศ
3. ปรุงรสด้วยเกลือ พอเดือดอีกครั้ง ยกลง เสร็จขั้นตอนทำน้ำเงี้ยว
4. จัดขนมจีนใส่จานพร้อมเครื่องเคียง ราดด้วยน้ำเงี้ยวที่ทำไว้
* รับประทานกับแคบหมู ผักกาดดอง ถั่วงอก ต้นหอม ผักชี พริกทอด กระเทียมเจียว
ที่มา http://student.swu.ac.th/sc481010115/nomjean.htm
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)